9 เรื่องแปลงของคนจีน ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้

9 เรื่องแปลงของคนจีน ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้

รู้หรือไม่ว่าประเทศจีนคือประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งคิดเป็น 7% ของพื้นผิวโลก และมีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยมีมากถึง 1,386 ล้านคน โดยเป็นประเทศที่มีการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ นับได้ว่าปัจจุบันประเทศจีนเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ด้วยจำนวนประชากรเยอะ บวกกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย ก็จะมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ มีอะไรบ้างลองมาดูกัน

  1. การห้ามเล่นโซเชียลต่างๆ

 

 

 

 

 

 

สำหรับประเทศจีนนั้นได้มีการจำกัดการใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยบล็อกบางเว็บไซต์และแอปพลิเคชันนั้นก็คือสื่อโซเชียลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook, Instagram, Youtube, Gmail, Twitter, Line (อาจใช้ได้บน Android)  โดยที่ไม่ให้สามารถใช้งานได้ในจีน เนื่องจากสื่อโซเชียลบางอย่างมีการเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงสู่ระบอบประชาธิปไตย รวมถึงมีการต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ โดยบางแอปพลิเคชันทางจีนไม่สามารถควบคุมเนื้อหาได้ เพราะเกิดการวิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นปัญหาที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน

  1. สีขาวใช้เป็นสีสำหรับการไว้ทุกข์

ในงานศพคนจีนจะใส่ชุดงานศพสีขาวทั้งแขกและผู้ตาย เพราะสีขาวเป็นสีที่สงวนไว้สำหรับความตายเท่านั้น และจะประกอบไปด้วยดอกไม้และซองเงิน นับว่าเป็นเรื่องที่ตรงกันข้ามกับของไทยมาก ในส่วนของไทยเราจะใส่สีดำ และใช้สีดำเป็นสัญลักษณ์ของการไว้ทุกข์ สีขาวจะใช้เกี่ยวกับงานมงคลต่างๆ

  1. สวรรค์ของการชอปปิ้ง

ประเทศจีนถือว่าเป็นแหล่งผลิตที่มีขนาดใหญ่และหลากหลาย มีทุกอย่างที่เราต้องการ สินค้ามีราคาถูก หลายราคา เราสามารถเลือกซื้อได้ ถ้าเราต่อรองราคาก็สามารถต่อได้ เพราะคนจีนชอบต่อราคา และแหล่งร้านค้าถูกจัดอยู่เป็นโซนเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นตึกกระเป๋า ตึกขายรองเท้า ตึกขายผลิตภัณฑ์ความงามต่างๆ ซึ่งจะตั้งอยู่ที่เมืองเชินเจิ้นสำหรับพ่อค้าแม่ค้าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันช็อปปิ้งออนไลน์อย่าง  Alibaba,Taobao,Tmall, สินค้าราคาถูก แถมยังมีทั้งส่วนลดและโปรโมชั่นต่าง ๆ อีกด้วย

  1. การแซงคิวเป็นเรื่องปกติ

ด้วยนิสัยของคนจีนที่ถือว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติ ทั้งการถูกเดินชน การเหยียบเท้า การผลัก แม้กระทั่งการแซงคิว เพราะเขาจะคิดว่าตนเป็นที่พึ่งของตน ไม่มีใครใส่ใจเรื่องของคนอื่น ด้วยความที่เป็นเมืองใหญ่ประชากรเยอะ การใช้ชีวิตที่เร่งรีบ การแซงคิวเลยมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย สำหรับวัฒนธรรมไทยและมารยาทในการอยู่ร่วมกันนั้น ถือเป็นเรื่องที่ควรปฏิบัติอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้เกิดระเบียบวินัย ไม่วุ่นวาย

  1. ไม่กินดื่มน้ำเย็นและน้ำแข็ง

คนจีนส่วนใหญ่ไม่ค่อยดื่มน้ำเย็น ตามร้านอาหารก็จะเสิร์ฟน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่มีน้ำเย็นและน้ำแข็งสำหรับเครื่องดื่ม เพราะว่าเชื้อว่าการดื่มน้ำเย็นจะทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง เลือดลมมีปัญหา จึงนิยมดื่มน้ำร้อน เพราะว่าจะทำให้ร่างกายอบอุ่น เลือดไหวเวียนดี แถมยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพ ลดอาการเจ็บป่วยภายในร่างกาย

  1. ประเทศแห่งการสูบบุหรี่ ทุกที่ ทุกเวลา

คนจีนชื่นชอบการสูบบุหรี่กันเป็นจำนวนมาก แถมยังสูบในที่สาธารณะ หรือเวลาทานข้าวก็ยังสูบ ไปห้องน้ำก็สูบ เพราะคนจีนมีความเชื่อว่าการสูบบุหรี่เป็นการแสดงถึงความเป็นมิตร เปรียบเหมือนการเข้าสังคม ยิ่งสูบเยอะยิ่งดี มีการแบ่งบุหรี่ให้กันก็นับว่าเป็นการเคารพต่อผู้อื่นที่จะทำให้เราสามารถตีสนิทกันได้ ในการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะในไทยถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ต้องมีโทษปรับ

  1. จำนวนเมืองร้างหรือหมู่บ้านร้างในประเทศจีน

ในจีนแผ่นดินใหญ่มีพื้นที่มากมายสำหรับการทำธุรกิจ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการสร้างเมือง และสิ่งปลูกสร้างต่างๆที่มีความงดงามและหรูหรา แต่กลับถูกทิ้งร้าง ไม่มีผู้อยู่อาศัย สาเหตุกลักๆมาจากนโยบายการดึงเงินมาลงทุนและหวังผลกำไรจากส่วนนี้ ซึ่งทำให้บ้านมีราคาสูง คนบางกลุ่มถูกปิดกั้นการเข้าถึง จนเกิดความเหลื่อมล้ำขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้เกิดเมืองร้างและหมู่บ้านร้างเป็นจำนวนมาก เพราะประเทศจีนเป็นประเทศที่คิดโปรเจกต์เยอะมาก ทั้งหมู่บ้าน คอนโด ตึกเช่า ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาว่าทำไมพบเมืองร้างหรือตึกร้างเป็นจำนวนมาก

  1. ในลิฟต์ของจีนบางที่ไม่มีหลายเลข 4

ในภาษาจีน เลข 4 เป็นเลขแห่งความโชคร้ายมาก เพราะมีการออกเสียงคล้ายกับคำหนึ่งในภาษาจีนกวางตุ้งที่แปลว่า “ความตาย” ดังนั้นในลิฟต์บางตัวจีนจึงไม่มีเลข 4 ถ้าหากเป็นในไทย ก็จะไม่ค่อยเห็นเลข 13 เพราะเป็นหมายเลขเเห่งการสูญเสีย ไม่เป็นหมายเลขนำโชค

  1. คนจีนมีนิสัยไม่อาบน้ำตอนเช้าและแปรงฟัน

ในฤดูหนาวของจีนที่ค่อนข้างยาวนาน บวกกับระบบน้ำไม่ค่อยมีคุณภาพ คนจีนมักจะอาบน้ำวันละ 2ครั้งเท่านั้น หรือไม่ก็ไม่อาบเลย มีส่วนน้อยมาก ๆ ที่จะอาบน้ำตอนเช้า

จะเห็นได้ว่าจีนประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกก็มีเรื่องแปลกๆที่เรายังไม่รู้ หรือบางเรื่องเราอาจจะรู้กันอยู่บ้างแล้ว แต่การที่เราได้รู้เพิ่มเติม ทำให้เรามีความสนใจในภาษาจีนมากขึ้น และอยากที่จะเรียนภาษาจีนมากขึ้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *