การใช้ “了” ในไวยากรณ์ภาษาจีน – เข้าใจง่าย ใช้ถูกต้อง ไม่พลาดคะแนนสอบ HSK
“了” (le) ถือเป็นหนึ่งในไวยากรณ์พื้นฐานที่ผู้เริ่มต้นเรียนภาษาจีนต้องพบเจอตั้งแต่บทแรก ๆ เพราะสามารถพบได้ทั่วไปในประโยคภาษาจีนหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเหตุการณ์ การเปลี่ยนแปลง หรือการแสดงผลลัพธ์
แต่ในความเป็นจริงแล้ว “了” กลับเป็นไวยากรณ์ที่คนไทยใช้ผิดบ่อยที่สุด โดยเฉพาะในเรื่อง ตำแหน่งการวาง และ ความหมายที่คลาดเคลื่อน ซึ่งอาจทำให้สื่อสารผิด หรือเสียคะแนนในการสอบวัดระดับ เช่น HSK
เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจและใช้ “了” ได้อย่างมั่นใจ สถาบัน สอนภาษาจีนและติวสอบ HSK “Zhongxin” ขอนำเสนอแนวทางการใช้ “了” ในสถานการณ์ต่าง ๆ พร้อมตัวอย่างชัดเจน และ ข้อควรระวังที่ผู้เรียนมักมองข้าม
บทความนี้เหมาะสำหรับ:
- ผู้เริ่มต้นเรียนภาษาจีน
- ผู้เตรียมตัว ติวสอบ HSK4 – HSK5
- ผู้ที่เคยเรียนมาแล้วแต่ยังสับสนการใช้ “了”
กรณีที่ 1 : เรื่องราวหรือเหตุการณ์เกิดการเปลี่ยนแปลง
เราจะใช้ 了 เข้ามาเพื่อช่วยบ่งบอกว่าสิ่งนั้นๆ ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว โดย 了 มักจะวางไว้อยู่ที่ท้ายประโยคนั้นๆ
โครงสร้าง :ประธาน + ภาคแสดง + 了
ตัวอย่างเช่น
你变瘦了.
Nǐ biàn shòu le.
เธอผอมลงนะ
他不爱我了.
Tā bú ài wǒ le.
เขาไม่รักฉันแล้ว
กรณีที่ 2 : เรื่องราวหรือเหตุการณ์ได้เสร็จสิ้นหรือจบลงแล้ว
การใช้ไวยากรณ์ 了 จะแตกต่างไปจากกรณีแรก เราสามารถแบ่งการใช้ในกรณีนี้ออกเป็น 3 รูปแบบด้วยกันดังนี้
2.1 รูปประโยคพื้นฐาน
กรณีเหตุการณ์นั้นๆ เสร็จสิ้นและเป็นอดีตไปแล้ว จะมีโครงสร้างพื้นฐาน คือ 了 จะตามหลังคำกริยา โดยอาจมีบทเสริมกริยาหรือไม่มีก็ได้อยู่ตรงกลาง
ตัวอย่างเช่น
我吃了饭.
Wǒ chī le fàn.
ฉันกินข้าวแล้ว
เพิ่มเติม ประโยค 我吃了饭。และ 我吃饭了。จะมีความแตกต่างกันดังนี้ :
我吃了饭。เป็นการบ่งบอกว่าเหตุการณ์ได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยจะเน้นถึงสิ่งที่กินเข้าไป ว่ากินข้าวไปแล้ว
我吃饭了。เป็นการบ่งบอกว่าแสดงว่าเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปและสิ้นสุดลงแล้ว โดยจะเน้นว่า กินแล้วนะ
2.2 รูปประโยคแบบบ่งบอกจำนวนครั้งหรือจำนวนของกรรมในประโยค
ในกรณีที่ต้องการบ่งบอกจำนวน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนครั้งที่ทำกริยานั้นๆ หรือจำนวนของกรรมในประโยค เราสามารถเพิ่มจำนวนเข้าไปด้านหลัง 了 ได้เลย โดยจะต้องมีลักษณะตามหลังตัวเลขด้วยทุกครั้ง
โครงสร้าง :กริยา + 了 + จำนวน + ลักษณะนาม + (กรรม)
ตัวอย่างเช่น
这部电影我看了十遍.
Zhè bù diànyǐng wǒ kàn le shí biàn.
เขาดูภาพยนตร์เรื่องนี้ไปแล้ว 10 ครั้ง
2.3 รูปประโยคแบบบ่งบอกระยะเวลา
ในกรณีสามารถบ่งบอกระยะเวลาของการกระทำนั้นๆ ในประโยคได้ด้วยเช่นกัน โดยจะต้อวางคำบอกเวลาไว้ด้านหลังของ 了
โครงสร้าง :กริยา + 了 + ช่วงเวลา
ตัวอย่างเช่น
我看了两个小时书.
Wǒ kàn le liǎng gè xiǎoshí shū.
ฉันอ่านหนังสือไป 2 ชั่วโมง
กรณีที่ 3 : เหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้วและยังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน
ในกรณีเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วในอดีต และยังคงดำเนินต่อไปในปัจจุบัน การใช้ไวยากรณ์ 了 จะประกอบไปด้วย 了 2 ตัวในประโยค
โครงสร้าง :กริยา + 了 + จำนวน/ช่วงเวลา +กรรม + 了
ตัวอย่างเช่น
我学了两年汉语了.
Wǒ xué le liǎng nián hànyǔ le.
ฉันเรียนภาษาจีนมา 2 ปีแล้ว (และยังคงเรียนอยู่ในปัจจุบัน)
คำถาม-คำตอบที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้ “了” (le)
- จะจำง่ายๆ ได้อย่างไรว่าควรวาง “了” ไว้ตรงไหนในประโยค?
หลักการจำง่ายๆ คือให้ดูว่าคุณต้องการเน้นอะไรค่ะ หากคุณต้องการเน้นว่า เหตุการณ์จบลงแล้ว และต้องการเล่าเรื่องราวในอดีต ให้วาง “了” ไว้หลังคำกริยา เช่น “我吃了饭” (wǒ chī le fàn) แต่ถ้าคุณต้องการเน้นว่า เหตุการณ์จบลงแล้ว และต้องการบอกว่าสถานการณ์ได้ เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ให้วาง “了” ไว้ท้ายประโยค เช่น “我吃饭了” (wǒ chī fàn le) ค่ะ
- “了” สองตัวในประโยคมีความหมายว่าอย่างไร?
การใช้ “了” สองตัว ในประโยค (กริยา + 了 + … + 了) เป็นการบอกว่า เหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นมาแล้วในอดีต และยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปัจจุบัน ค่ะ เช่น “我学了两年汉语了” (wǒ xué le liǎng nián hànyǔ le) ซึ่งแปลว่า “ฉันเรียนภาษาจีนมา 2 ปีแล้ว (และตอนนี้ก็ยังเรียนอยู่)” ค่ะ
- การใช้ “了” เพื่อบอกจำนวนครั้งหรือระยะเวลาที่ทำกริยามีหลักการอย่างไร?
ในกรณีนี้ “了” จะวางอยู่หลังคำกริยา เสมอค่ะ แล้วตามด้วยจำนวนและลักษณะนามที่ใช้บอกจำนวนครั้ง หรือช่วงเวลาที่ใช้ในการกระทำนั้นๆ ค่ะ เช่น “我看了两个小时书” (wǒ kàn le liǎng gè xiǎoshí shū) ซึ่งแปลว่า “ฉันอ่านหนังสือไป 2 ชั่วโมง” ค่ะ
- “了” สามารถใช้กับประโยคปฏิเสธได้ไหม?
ได้ค่ะ แต่จะใช้เพื่อบอกว่า “ไม่ทำสิ่งนั้นๆ อีกแล้ว” ค่ะ โดยมีโครงสร้างคือ “不 (bù) + กริยา + 了” เช่น “我不爱你了” (wǒ bú ài nǐ le) ที่แปลว่า “ฉันไม่รักคุณแล้ว” ซึ่งเป็นการบอกว่าความรักได้สิ้นสุดลงแล้วและสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปแล้วค่ะ
จากบทความข้างต้น เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงได้เห็นโครงสร้างการใช้ “了” และเข้าใจวิธีการใช้อย่างถูกต้องมากขึ้นแล้วใช่ไหมครับ?
หลังจากนี้ หากเราต้องการสื่อความหมายในประโยคภาษาจีน ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเหตุการณ์ หรือการบอกผลลัพธ์ต่าง ๆ ก็จะสามารถใช้ “了” ได้อย่างมั่นใจและ สื่อสารได้ตรงกับความต้องการมากขึ้นแน่นอน
สำหรับใครที่อยาก เรียนรู้หลักไวยากรณ์ภาษาจีนเพิ่มเติม ทั้งในเรื่องของโครงสร้างประโยค เทคนิคการเขียน และการเข้าใจไวยากรณ์เชิงลึก
ทาง สถาบันสอนภาษาจีนจงซิน มีเปิดสอน คอร์สเรียนเร่งรัดภาษาจีน ที่เน้นการ ติวสอบ HSK โดยเฉพาะ ทั้ง HSK3, HSK4, และ HSK5 พร้อมเทคนิคการทำข้อสอบ และการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน

