การสอบ HSK คืออะไร

คอร์สติวสอบ hsk

มีหลายคนที่เรียนภาษาจีนเพื่อนำไปพัฒนาและสร้างโอกาสให้ตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนเพื่อไปสมัครงาน เพื่อไปสอบเข้ามหาลัย หรือเพื่อนำไปสอบเรียนต่อต่างประเทศ หากเพื่อนๆ เป็นหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านี้ สิ่งที่จะต้องเจอก็คงหนีไม่พ้นการสอบ HSK เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันความสามารถในการใช้ภาษาจีน แต่ว่า HSK คืออะไร บางคนที่เพิ่งเริ่มวางแผนอาจจะยังไม่รู้ ทางสถาบันสอนภาษาจีนออนไลน์จงซิน จะพามาทำความรู้จักกับ HSK กัน ว่าคืออะไร ยังไง มีกี่ระดับกันแน่ 

HSK คืออะไร ทำไมต้องสอบ

HSK (Hanyu Shuiping Kaoshi) คือ การสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีน สำหรับชาวต่างชาติ (ผู้ที่ไม่ใช่คนจีน) โดยจะเป็นการทดสอบทักษะการฟัง การอ่าน และการเขียน ซึ่งจะจัดสอบโดย สำนักงานส่งเสริมการสอนภาษาจีนนานาชาติ (HANBAN) กระทรวงศึกษาธิการประเทศจีน การสอบ HSK จะเปรียบเสมือนกับการสอบ TOEFL และ IELTS ในภาษาอังกฤษ โดยสามารถใช้คะแนน HSK เป็นหลักฐานยืนยันความสามารถในการใช้ภาษาจีนของเรา เพื่อใช้ในยื่นสมัครงาน เพื่อใช้ในการสอบชิงทุนต่างๆ หรือ เพื่อใช้ในการเรียนต่อทั้งในประเทศและนอกประเทศได้

ข้อดีของการสอบ HSK

ข้อดีของการสอบ HSK มีหลายประการ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ภาษาจีนในชีวิตประจำวัน การเรียนต่อ หรือการทำงาน ดังนี้:

  1. ยืนยันความสามารถทางภาษาจีน : HSK เป็นการสอบที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลก การมีคะแนน HSK สามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันความสามารถในการใช้ภาษาจีนสำหรับการสมัครงาน สมัครเรียน หรือขอทุนการศึกษาทั้งในและนอกประเทศจีน

  2. โอกาสเรียนต่อและขอทุนในประเทศจีน : หลายมหาวิทยาลัยในประเทศจีน รวมถึงทุนการศึกษาต่างๆ จะต้องใช้คะแนน HSK ในการยื่นสมัครเพื่อเรียนต่อหรือลงทะเบียนเข้าศึกษา

  3. เพิ่มโอกาสในอาชีพ : ในหลายบริษัท โดยเฉพาะบริษัทที่ทำธุรกิจกับจีน การมีความสามารถในการใช้ภาษาจีนเป็นข้อได้เปรียบในการสมัครงาน และสามารถสร้างโอกาสการเติบโตในสายงานที่เกี่ยวข้องกับจีนได้

  4. วัดระดับความก้าวหน้าในการเรียน : สำหรับผู้เรียนภาษาจีน การสอบ HSK สามารถช่วยวัดระดับความสามารถและความก้าวหน้าในการเรียนของตนเอง เป็นเครื่องมือที่ดีในการวางแผนการเรียนรู้และตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน

  5. เพิ่มความมั่นใจในการใช้ภาษาจีน : การเตรียมตัวสอบ HSK ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการใช้ภาษาจีน ทั้งทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน รวมถึงการสื่อสารกับเจ้าของภาษาได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น

  6. เป็นแรงผลักดันในการเรียนรู้ : การมีเป้าหมายสอบ HSK จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียนตั้งใจฝึกฝนภาษาจีนมากขึ้น ทำให้มีแนวทางที่ชัดเจนในการเรียนรู้

  7. การสอบที่ยืดหยุ่น : การสอบ HSK สามารถเลือกสอบระดับที่ตรงกับความสามารถของตัวเองได้ และปัจจุบันยังมีการสอบออนไลน์ ทำให้สะดวกมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่ไม่สามารถเดินทางไปสอบที่ศูนย์สอบได้

การสอบ HSK จึงเป็นประโยชน์ทั้งในด้านการเรียนและการทำงาน ช่วยเปิดประตูสู่โอกาสต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาจีนในหลากหลายบริบท

ระดับของการสอบ HSK 

การสอบ HSK แบ่งออกเป็นหลายระดับตั้งแต่ HSK 1-9 ตามระบบการสอบใหม่ที่เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2021 โดยแต่ละระดับจะมีจำนวนคำศัพท์และประโยคภาษาจีนที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งระดับสูง ความยากก็จะเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ และผู้สอบจำเป็นต้องมีความเข้าใจในภาษาจีนอย่างลึกซึ้ง สำหรับระดับ 1 – 2 คะแนนเต็มจะอยู่ที่ 200 คะแนน ผู้สอบต้องได้อย่างน้อย 120 คะแนนจึงจะผ่าน ขณะที่ระดับ 3 – 6 จะมีคะแนนเต็ม 300 คะแนน ต้องได้ 180 ขึ้นไปถึงจะผ่าน ส่วนระดับ 7 – 9 จะมีคะแนนเต็ม 300 คะแนน แล้วใช้การแบ่งตามเกณฑ์ว่าอยู่ระดับไหน

การสอบ HSK ระดับต้น

  • HSK ระดับ 1 สำหรับผู้เริ่มต้นเรียนภาษาจีน คนส่วนหใญ่มักจะไม่นิยมสอบกันแล้วข้ามไปสอบระดับอื่นแทน เพราะ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้น้อย แต่หากใครต้องการลองสอบในระดับเริ่มต้นก็ไม่เสียหาย โดยการสอบจะต้องเข้าใจคำศัพท์ และประโยคง่ายๆในภาษาจีน ในการสอบ HSK 1 ระบบใหม่ควรมีพื้นฐานคำศัพท์ภาษาจีนอย่างน้อย 500 คำ ไวยากรณ์ 48 รูป 269 เสียง โดยจะเป็นคำศัพท์พื้นฐานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ข้อสอบแบ่งเป็น ฟัง 20 ข้อ อ่าน 20 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 35 นาที
  • HSK ระดับ 2 สามารถใช้ภาษาจีนสื่อสารอย่างง่ายๆ และเข้าใจประโยคในชีวิตประจำวันง่ายๆได้ ในการสอบ HSK 2 ระบบใหม่ควรมีพื้นฐานคำศัพท์ภาษาจีนอย่างน้อย 1272 คำ ไวยากรณ์ 129 รูป 468 เสียง ข้อสอบแบ่งเป็น ฟัง 35 ข้อ อ่าน 25 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที โดยส่วนมากผู้เรียนภาษาจีนจะเริ่มสอบที่ระดับ 2 และ 3 กัน
  • HSK ระดับ 3 สามารถใช้ภาษาจีนพูด สื่อสาร ในชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน การท่องเที่ยวในประเทศจีนขั้นพื้นฐานได้ ในการสอบชิงทุนหรือสอบเข้ามหาลัยจะใช้ HSK 3 ในระดับที่ 3 เป็นอย่างต่ำ ในการสอบ HSK ระบบใหม่ควรมีพื้นฐานคำศัพท์ภาษาจีนอย่างน้อย 2,245 คำ ไวยากรณ์ 210 รูป 608 เสียง ข้อสอบแบ่งเป็น ฟัง 40 ข้อ อ่าน 30 ข้อ การเขียน 10 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 85 นาที

การสอบ HSK ระดับกลาง

  • HSK ระดับ 4 สามารถใช้ภาษาจีนพูด สื่อสาร ได้ในขอบเขตที่กว้างมากขึ้น สามารถพูด คุย สื่อสารกับเจ้าของภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว ในการสอบ HSK 4 ระบบใหม่ควรมีพื้นฐานคำศัพท์ภาษาจีนอย่างน้อย 3,245 คำ ไวยากรณ์ 286 รูป 724 เสียง ข้อสอบแบ่งเป็น ฟัง 45 ข้อ อ่าน 40 ข้อ เขียน 15 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 100 นาที
  • HSK ระดับ 5 สามารถอ่านสิ่งพิมพ์และนิตยสารภาษาจีนได้ ดูหนังหรือซีรีย์ภาษาจีนได้อย่างเข้าใจ สามารถพูดภาษาจีนในที่สาธารณะต่อหน้าผู้อื่นได้ ในการสอบ HSK 5 ระบบใหม่ควรมีพื้นฐานคำศัพท์ภาษาจีนอย่างน้อย 4,316 คำ ไวยากรณ์ 357 รูป 822 เสียง ข้อสอบแบ่งเป็น ฟัง 45 ข้อ อ่าน 45 ข้อ เขียน 10 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 120 นาที
  • HSK ระดับ 6 สามารถฟังและอ่านข่าวภาษาจีนได้อย่างดี จับใจความได้อย่างถูกต้อง สามารถใช้การพูด การเขียน ภาษาจีนแสดงความคิดเห็นได้คล่องเหมือนกับเจ้าของภาษา ในการสอบ HSK 6 ระบบใหม่ควรมีพื้นฐานคำศัพท์ภาษาจีนอย่างน้อย 5,456 คำ ไวยากรณ์ 424 รูป 908 เสียง ข้อสอบแบ่งเป็น ฟัง 50 ข้อ อ่าน 50 ข้อ เขียน 1 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 135 นาที

การสอบ HSK ระดับสูง

  • HSK ระดับ 7 – 9 การสอบระดับนี้จะเป็นการสอบรวบ เป็นข้อสอบชุดเดียว แล้ววัดคะแนนว่าอยู่ในระดับไหน โดยระดับ 9 ถือว่าเป็นระดับสูงสุด โดยผู้สอบในระดับ 7 – 9 จะต้องใช้ภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว สามารถใช้รูปแบบประโยคที่มีความซับซ้อนได้ สามารถเข้าใจภาษาจีนที่มีความหมายแฝงได้ สามารถเขียนบทความภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว จะต้องเชี่ยวชาญทั้ง ตัวอักษรจีน และ ไวยากรณ์ ควรมีพื้นฐานคำศัพท์ภาษาจีนอย่างน้อย 11092 คำ ไวยากรณ์ 572 รูป 1,110 เสียง ข้อสอบแบ่งเป็น ฟัง 40 ข้อ อ่าน 47 ข้อ เขียน 2 ข้อ แปลความ 4 ข้อ พูด 5 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่ง (รวมเวลาพักเบรคและพักรับประทานอาหาร)

การสอบพูดภาษาจีน

นอกจากการสอบข้อเขียนแล้ว ยังมีการสอบพูดด้วยนั้นก็คือ HSKK (Hanyu Shuiping Kouyu Kaoshi) เป็นการสอบที่จะวัดระดับความสามารถทางด้านการพูดภาษาจีน โดยจะแบ่งระดับการสอบออกเป็น 3 ระดับ แต่ละระดับคะแนนเต็ม 100 คะแนน ต้องได้มากกว่า 60 คะแนนถึงจะผ่าน ในสอบ HSK ระบบใหม่บังคับให้ผู้ที่สอบ HSK ต้องสอบ HSKK ควบคู่ไปด้วย โดย HSK 3 ต้องสอบระดับต้น HSK 4 ต้องสอบระดับกลาง และ HSK 5-6 ต้องสอบระดับสูง (ผลคะแนนสอบ HSK และ HSKK จะประกาศในแผ่นเดียวกัน แต่แยกส่วนกัน) 

  • ระดับต้น ความรู้ประมาณ HSK 1 – 2 สามารถเข้าใจภาษาจีนที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวันได้ ควรมีพื้นฐานคำศัพท์ภาษาจีนอย่างน้อย 200 คำ โดยการสอบจะแบ่งเป็น 3 ส่วนได้แก่ ฟังแล้วพูดตาม ฟังแล้วตอบคำถาม และ ตอบคำถาม ซึ่งทั้งหมดจะใช้เวลาในการสอบประมาณ 20 นาที
  • ระดับกลาง ความรู้ประมาณ HSK 3 – 4 สามารถเข้าใจและใช้ภาษาจีนสื่อสารกับเจ้าของภาษาได้อย่าง
    คล่องแคล่ว ควรมีพื้นฐานคำศัพท์ภาษาจีนอย่างน้อย 900 คำ โดยการสอบจะแบ่งเป็น 3 ส่วนได้แก่ ฟังแล้วพูดตาม ดูรูปภาพแล้วอธิบาย และ ตอบคำถาม ซึ่งทั้งหมดจะใช้เวลาในการสอบประมาณ 23 นาที
  • ระดับสูง มีความรู้ในระดับ HSK 5 – 6 ผู้สอบจะสามารถเข้าใจและแสดงความเห็นในภาษาจีนได้อย่างชัดเจน ควรมีคลังคำศัพท์ภาษาจีนไม่น้อยกว่า 3,000 คำ โดยการสอบจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ การฟังแล้วพูดตาม การอ่านออกเสียง และการตอบคำถาม โดยทั้งหมดจะใช้เวลาในการสอบประมาณ 25 นาที

ในการสอบชิงทุนหรือสอบเข้ามหาลัยบางที่ต้องใช้คะแนน HSKK เพื่อเป็นหลักฐานในการศึกษาต่อหรือขอทุนการศึกษาร่วมกับคะแนน HSK เพราะฉะนั้นใครที่ต้องใช้คะแนน HSKK ก็อย่างลืมฝึกพูดกันไว้ด้วยนะครับ

การสมัครสอบ HSK

การสอบ HSK สามารถสมัครสอบได้ทุกคน เพราะไม่จำกัดวุฒิการศึกษาและอายุของผู้สอบ โดยจะเปิดให้สมัครและสอบประมาณเดือนละ 1 ครั้ง การสอบจะมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันตามระดับการสอบ ผลคะแนนสอบจะมีอายุ 2 ปี สามารถสมัครสอบตามศูนย์สอบ HSK ตามจังหวัดต่างๆ หาโดยการพิมพ์ ศูนย์สอบ HSK  ตามด้วยชื่อจังหวัดที่ต้องการไปสอบ และสามารถสมัครสอบโดยตรงได้ที่เว็ป ​​Chinese Testing International หรือสามารถสอบ HSK ออนไลน์ที่บ้านได้เหมือนกัน

การสอบ HSK นอกจากจะใช้ในการสมัครงาน สมัครเรียน หรือสอบชิงทุนแล้ว ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินผลการเรียนภาษาจีนของตนเอง หรือเพื่อทดสอบความสามารถทางภาษาได้ นอกจากนี้ยังอาจใช้เป็นเป้าหมายหรือแรงกระตุ้นในการพัฒนาภาษาจีน เช่น การตั้งเป้าหมายว่าจะต้องสอบผ่าน HSK ระดับ 3 ให้ได้ ที่สำคัญเมื่อมีเป้าหมายแล้ว อย่าลืมฝึกฝนภาษาจีนอย่างสม่ำเสมอ หากใครกำลังเตรียมตัวสอบ HSK สามารถดู เทคนิคการเตรียมตัวสอบ HSK ได้เลย

การสอบวัดระดับไม่ได้มีแค่ HSK และ HSKK เท่านั้น ยังมี YCT ที่เป็นการสอบวัดระดับของเยาวชนอีกด้วย หากท่านใดต้องการสอบ HSK ทางสถาบันสอนภาษาจีนจงซินขอแนะนำ คอร์สติวสอบ HSK ที่สามารถติวสอบได้ทั้ง HSK HSKK หรือ YCT ได้ตามความต้องการของผู้เรียน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *