วันนี้เราจะมานำเสนอ อักษรจีนตัวเต็ม VS อักษรจีนตัวย่อ ต่างกันอย่างไร โดยตัวอักษรจีนที่เราเห็นกัน เคยพบเจอกันโดยทั่วไปในสถานที่ต่าง ๆ หรือในหนังสือแบบเรียนต่างๆ ล้วนมีที่มาจากการมองตัวอักษรให้เป็นภาพ ตัวอักษรจีนทุกตัวต่างเกิดมาจากภาพ คนในอดีตเห็นภาพอะไรก็นำมาสร้างเป็นตัวอักษรจีนขึ้น เช่น
1. 田 tián แปลว่า ทุ่งนา
จะเห็นได้ว่าทุ่งนาจะมีลักษณะเป็นช่อง ๆ 4ช่อง การเขียนตัวจีนจึงเกิดเป็นตัวจีนดังรูปขึ้น
2. 山 shān แปลว่า ภูเขา
จะเห็นได้ว่ามีภูเขา 3ลูกเรียงกันอยู่ การเขียนตัวจีนจึงเกิดเป็นตัวจีนดังรูปขึ้น
การจดจำตัวอักษรจีนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก หากเรารู้วิธีการจำ วิธีการมองตัวอักษรจีนให้เป็นภาพ เราก็จะสามารถจดจำ และเข้าใจตัวอักษรจีนตัวนั้นได้ดียิ่งขึ้น และเมื่อมีการนำไปรวมประกอบกับตัวอักษรจีนตัวอื่นก็จะทำให้เราสามารถเดาถึงความหมายของคำ ๆ นั้นได้ง่ายยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นตัวอักษรจีนในปัจจุบันอย่างที่หลายๆ รู้กันอยู่ว่าจะมี 2 รูปแบบ นั่นคือ อักษรจีนตัวเต็มหรือที่เรียกว่าอักษรจีนดั้งเดิม (Traditional Chinese Character) มักจะมีการใช้กันในฮ่องกงและไต้หวัน ส่วนอักษรจีนตัวย่อ (Simplified Chinese Character) ที่ถูกใช้ในจีนแผ่นดินใหญ่และสิงคโปร์ (มีเพียงบางมณฑลในจีนเท่านั้นที่ใช้อักษรจีนตัวเต็ม) ซึ่งมีจำนวนเส้นน้อยกว่า และเป็นตัวอักษรมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลกในปัจจุบัน
อักษรทั้งสองอย่างนี้จะแตกต่างกันในลักษณะของการเขียน โดยอักษรจีนตัวเต็มนั้นจะมีลักษณะการเขียนที่ยากกว่า ซับซ้อนกว่าเนื่องจากจำนวนเส้นเยอะกว่า ส่วนของอักษรจีนตัวย่อนั้นจะมีลักษณะการเขียนที่ง่ายกว่า ย่อจำนวนเส้นในการเขียนให้น้อยลงแต่ยังคงมีความหมายเดียวกันอยู่ ตัวอักษรจีนตัวย่อนอกจากจะมีการปรับจำนวนเส้นน้อยลงแล้วยังมีการปรับรูปแบบให้มีความทันสมัยมากขึ้น ทำให้ง่ายต่อการอ่านและการจดจำ
ปัจจุบันส่วนใหญ่มักมีใช้ตำราที่เป็นอักษรจีนตัวย่อมากกว่าจันตัวเต็ม เนื่องจากอิงจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่หากเป็นตำราการเรียนจากฮ่องกงหรือไต้หวันก็จะใช้เป็นอักษรจีนตัวเต็ม อาทิ คำว่า 龍 อ่านว่า ‘หลง’ แปลว่า มังกร เดิมมีถึง 17 ขีด เมื่อย่อแล้วกลายเป็น 龙 ซึ่งเหลือเพียง 5 ขีด
เรียนจีนตัวเต็มหรือจีนตัวย่อแบบไหนดี
อักษรจีนตัวเต็มเป็นสิ่งบ่งบอกวัฒนธรรมที่รุ่งเรืองของจีน การเรียนอักษรจีนตัวเต็มจะทำให้เข้าใจเรื่องราวประวัติศาสตร์ การเขียนพู่กัน และบันทึกเรื่องราวในอดีต ซึงในปัจจุบันบางประเทศอย่างไต้หวัน ฮองกงเองก็ยังคงอนุรักษ์การใช่จีนตัวเต็มไว้อยู่ ส่วนการเรียนอักษรจีนตัวย่อ ซึ่งในปัจจุบันมักใช้กันโดยทั่วกันมากกว่าก็พอจะสามารถเข้าใจอักษรจีนตัวเต็มได้โดยไม่ยากนัก ดังนั้นการเรียนอักษรจีนตัวเต็มหรืออักษรจีนตัวย่อก็สามารถเลือกเรียนได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งานในอนาคตและประเทศที่เราอยากจะไปศึกษาต่อมากกว่า ประเทศนั้นนิยมใช้ตัวอักษรแบบไหนกัน
อย่างไรก็ตามการเราก็ได้รู้ความแตกต่างของตัวอักษรจีนตัวเต็มและตัวย่อกันไปแล้ว ความแตกต่างของทั้ง 2 อย่างก็มีแค่เพียงการเขียนที่ต่างกัน แต่การอ่าน หรือการออกเสียงต่างก็เหมือน ๆ กัน เราสามรถเลือกเรียนได้ให้ตรงกับความต้องการหรือการนำไปใช้ประโยชน์ในประเทศที่เรามีการใช้ภาษาจีนในแต่ละแบบได้ สถาบันสอนภาษาจีนจงซินก็มีคอร์สเรียนภาษาจีนให้หลายๆ คนที่สนใจเรียนภาษาจีนได้เข้ามาเรียนไปด้วยกันแล้วนะคะ